ออฟเซ็ท
เครื่องพิมพ์ออฟเซ็ท
โดยทั่วไปมีหลักการเดียวกัน คือ ประกอบด้วยโมแม่พิมพ์ โมยางและโมพิมพ์
ที่โมแม่พิมพ์จะมีระบบการให้น้ำและต่อเพลทอยู่ การถ่ายทอดภาพ
เกิดจากโมแม่พิมพ์ได้รับหมึก แล้ถ่ายทอดภาพให้โมยาง แล้วโมยางจึงถ่ายทอดภาพให้กับกระดาษ
หรือวัสดุที่ใช้พิมพ์ ในการถ่ายทอดภาพจากโมหนึ่งไปยังโมหนึ่งจะต้องใช้แรงกดน้อยที่สุด
ออฟเซ็ทเล็ก
เป็นเครื่องพิมพ์ขนาดเล็ก
พิมพ์กระดาษได้ขนาด 10 *15 นิ้ว ถึงขนาด 13 *17 นิ้วโดยประมาณ
เครื่องชนิดนี้มีอุปกรณ์ประกอบในการทำงานน้อยไม่ยุ่งยาก ใช้ง่าย
เหมาะสำหรับงานพิมพ์ขนาดเล็ก เช่น หัวจดหมาย หนังสือเวียนแผ่น
โฆษณาเผยแพร่ เล็กๆ ไม่เหมาะสำหรับงานพิมพ์สอดสี หรือ สี่สี
เพราระบบฉากยังไม่มีความเที่ยง ตรงดีพอ
ขนาดตัดสี่
เป็นเครื่องพิมพ์ที่
ขนาดใหญากว่าออฟเซ็ดเล็กสามารถพิมพ์ได้ขนาดประมาณ 15 *21 นิ้ว
หรือ 18 * 25 นิ้ว มีอุปกรณืช่วยในการพิมพ์มากขึ้นและระบบน้ำดีขึ้นกว่าสามารถพิมพ์งานได้เกือบทุกชนิด
ไม่ว่าจะเป็นสีเดียวหรือหลายสีก็ตาม เหมาะสำหรับ พิมพ์หนังสือยกเป็นเล่ม
ภาพโปสเตอร์ขนาดกลาง งานพิมพืทั่วไป และงานพิมพ์ทีที่มี จำนวนพิมพ์ไม่มากนัก
เช่น ครั้งละไม่เกิน 5,000 ชุดถ้าเป็นการพิมพ์จำนวนมากๆแล้ว
จะเป็นการเสียเวลา เพราะมีขนาดเล็ก ไม่สามารถลงพิมพ์ได้คราวละหลายๆแบบได้
เครื่องพิมพ์ขนาดนี้นิยมใช้ทั่วไปในท้องตลาด ถ้าพิมพ์หนังสือ
ยก จะพิมพ์ขนาด 8 หน้ายก ได้ ทั้งแล้วแต่ขนาดของเครื่องพิมพ์การที่เรียกเครื่องพิมพ์ขนาดตัดสี่นั้น
เพราะใช้กระดาษขนาด 15.5 -*1.5 นิ้ว ที่เกิดจากการ แบ่งกระดาษขนาดใหญ่
31 *43 นิ้ว เป้นสี่ส่วนได้พอดี ซึ่งเมื่อนำกระดาษขนาด นี้ไปพิมพ์และพับเป็นเล่มแล้ว
จะได้หนังสือที่มีขนาดเล็กเรียกว่า 8 หน้ายก
ขนาดตัดสอง
เป็นเครื่องพิมพ์ขนาดที่ใหญ่กว่าขนาดตัดสี่เกือบเท่าตัว
กล่าวคือ สามารถพิมพ์ได้ 25 * 36 นิ้ว หรือบางแม่พิมพ์ สามรถพิมพ์ขนาด
28 * 40 นิ้วได้ เหมาะสำหรับใช้พิพม์งานทางการค้าทั่วไป เช่น
หนังสือยกโปสเตอร์ขนาดใหญ่ แผ่นโฆษณา และงานพิมพ์ทุกชนิด เนื่องสามารถพิมพ์ได้ขนาดใหญ่
จึงสามารถลงแบที่จะพิมพ์ได้ครวละหลายๆแบบ และสามารถตัดซอยเป็นแบบที่ต้องการได้ภายหลัง
ทำให้ประหยัดเวลาในการพิมพ์ เป็นเครื่องพิมพ์ขนาดที่นิยมใช้กันทั่วไป
มีอุปกรณ์ประกอบในการช่วยพิมพ์ดี ฉากพิมพ์แม่นยำ และความเร็วสูง
ขนาดตัดหนึ่ง
เป็นเครื่องพิมพ์
ชนิดป้อนแผ่นขนาดใหญ่ที่สามารถ พิมพ์กระดาษ 30 * 40 นิ้ว หรือโตกว่าได้
มีอุปกรณ์ช่วยใน การพิมพ์มากขึ้น ส่วนมากใช้ในการพิมพ์หนังสือ
โปสเตอร์ และบรจุภณฑ์ที่มีปริมาณการพิมพ์มากๆ มีใช้น้อยกว่าขนาด
สี่ตัด และขนาดสองตัด
ในปัจจุบัน
จัดได้ว่าระบบการพิมพ์ ออฟเซ็ต เป็นระบบ งานพิมพ์ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด
เพราะให้คุณภาพของงานพิมพ์ที่สูง และราคาไม่สูงมาก เหมาะสำหรับใช้พิมพ์สื่อสิ่ง
พิมพืทุกชนิด ทั้งหนังสือที่ต้องการสีเดียวและสี่สี
การเลือกใช้กระดาษ
การรู้จักชนิดของกระดาษและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน
จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการ พิมพ์ได้มาก กระดาษที่มีราคาแพงและสวยงามไม่จำเป็นที่จะเป็นกระดาษที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานเสมอไป
กระดาษที่มีราคาถูกที่สุดอาจจะเหมาะสมที่สุดก็ได้ ซึ่งทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่ที่วัตถุประสงค์ของการใช้งาน
การเลือกใช้กระดาษควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้เป็นหลักคือ
1.ใช้ระบบการพิมพ์ที่เหมาะสมกับกระดาษ
2.ใช้หมึกพิมพ์ให้เหมาะสมกับกระดาษ
3.ใช้กระดาษที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับลักษณะของงานพิมพ์
ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท
กระดาษที่ใช้พิมพ์กับระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท ควรมีคุณสมบัติดังนี้
1.มีผิวเรียบเพื่อให้รับหมึกได้ดี
2.ไม่มีขุยและฝุ่นบนผิวกระดาษ เพราะจะทำให้ภาพพิมพ์
มีรูรอยด่างของขลุยกระดาษ
3.ต้านทานน้ำและความชื้นได้ดี ไม่ยืดง่ายเมื่อถูกความชื้น
4.มีเนื้อกระดาษสม่ำเสมอและรักหมึกได้ดี
5.มีความราบเรียบตลอดทั้งแผ่นเพื่อให้ป้อนเข้า
เครื่องได้สะดวก
ในกรณีของกระดาษอาร์ตลายผ้า อาร์ตหนังไก่ และกระดาษปั้มลายต่างๆ
ก็ยังสามารถใช้พิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ทได้ดีเพราะการถ่ายทอดภาพโดยผ่านผ้ายางแบลงเกต
ทำให้มีความยือหยุ่นตัวดี และแรงกดในการพิมพ์ก็มีมากพอ
สิ่งพิมพ์ที่เหมาะกับ offset
ระบบออฟเซตเป็นระบบการพิมพ์ที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลกในปัจจุบันเพราะให้งานพิมพ์ที่สวยงามมีความคล่องตัวในการจัดอาร์ตเวอร์คและไม่ว่าจะออกแบอย่างไรการพิมพ์ก็ไม่ยุ่งยากมากจนเกินไปประกอบกับ
ความก้าวหน้าในการทำฟิล์มและการแยกสีในปัจจุบัน ทำให้ยิ่งพิมพ์จำนวนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งถูกลง
สิ่งพิมพ์ที่จะพิมพ์ด้วยระบบออฟเซตควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
สิ่งพิมพ์ที่เหมาะกับการพิมพ์ Offset
1. มีจำนวนพิมพ์ตั้งแต่ 3,000 ชุด ขึ้นไป
2. มีภาพประกอบหรืองานประเภท กราฟ มาก
3. ต้องการความรวดเร็วในการจัดพิมพ์
4. ต้องการความประณีต สวยงาม
5. เป็นการพิมพ์ หลายสี หรือภาพ สี่สีที่ต้องการความสวยงามมากๆ
6. มีงานอาร์ตเวอร์คที่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อนมาก
7. มีงบประมาณในการจัดพิมพ์เพียงพอ
ระบบออฟเซตสามารถให้งานพิมพ์ที่คุณภาพดีได้เพราะ
1. การถ่ายทอดภาพกระทำโดยการถ่ายทอดลงบนผ้ายางแบลงเกตก่อนแลวจึงถ่ายทอดลงบนกระดาษ
ทำให้การถ่ายทอดหมึกเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
2. สามารถใช้สกรีนที่มีความละเอียดมากๆ
ถึง 175 -200 เส้น/นิ้วได้ทำให้ภาพที่ออกมามีความละเอียดสวยงาม
3. การพิมพ์ภาพสี่สีทำได้สะดวก เพราะสามารถปรับตำแหน่งของแม่พิมพ์และกระดาษให้ลงในตำแหน่งที่ตรงกันของแต่ละสีได้ง่าย
4.สามารถพิมพ์ลงบนกระดาษได้เกือบทุกชนิด
อ้างอิง
http://student.nu.ac.th/namo/luk.html
พัฒนาโดย นางสาวนภาพร อ่ำรอด คณะ ศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัย นเรศวร สงวนลิขสิทธิ์ 2003